เซียนท้อ ประโยชน์ (หรือละมุดอินเดีย)
เซียนท้อ ประโยชน์ ต้นไม้จำพวกนี้มีชื่อเรียกมากมายมาก “ละมุดอินเดีย” , “ละมุดเขมร”, “ม่อนไข่”, “เซียนท้อ หรือเซียมท้อ” , “หมากป่วน”, “หม่าปิน” ฯลฯ
ใบหน้าทั่วๆไป
เป็นไม้ผลยืนต้น เป็นพุ่มแจ้ ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ต้นที่เผชิญมีความสูงประมาณ 5 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 12-15 เซนติเมตร ลำต้นค่อนข้างตรง และแตกแขนงสาขาที่ระยะราวๆ 7-8 เมตร เปลือกเรียบสีน้ำตาลปนเทา ใบ เดี่ยวรูปหอกกว้างโดยประมาณ 7-10 เซนติเมตร ยาวโดยประมาณ 18-38 เซนติเมตร ก้านใบด้านบนสีเขียวเข้มส่วนข้างล่างมีสีเขียวอ่อน มีรูปทรงค่อนข้างกลม โดยมีความกว้างขวางประมาณ 6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร สีเขียวแล้วแปรเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อแก่ ส่วนปลายผลนั้นเกือบจะแหลมคล้ายผลของมะพร้าวขั้วของผลมีขนาดใหญ่ โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 0.5 เซนติเมตร ยาวราวๆ 2 เซนติเมตร การติดผลมีตั้งแต่ผลเดี่ยวถึงเป็นช่อ การขยายพันธุ์ ด้วยเมล็ด ปลูกไม่ยากอยู่ใกล้น้ำผลจะใหญ่ แต่ถ้าลูกมากเกินผลจะเล็กลง
รสชาติของผล เนื้อในของผลมีสีเหลือง รสมันอมหวานน้อย เนื้อเหลืองเนียนเหมือนฟักทองคำ ควรต้องกินขณะสุกๆ หากไม่สุกจะมีรสฝาด
ผลดี คุณประโยชน์ทางอาหาร
มีวิตามิน เอ มีไนอะซิน (กลุ่มวิตามินบี บำรุง ผิว ได้ ความคิดหรือส่วนที่ใช้ในการคิดได้ ปลายประสาทได้) และเบต้าแคโรทีน มีค่าทางอาหารสูง บำรุง ทั้งสายตา และความคิดในหัว
มีวิตามินซีที่ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และช่วยคุ้มครองปกป้องโรคเลือดออกตามไรฟันเป็นต้นไม้ที่นำเข้ามาปลูกในบ้านพวกเราช้านานแล้ว แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม ชาวจีนนำไปปลูกที่บ้านเมืองเขาเรียกว่า เซียมท้อ แถวประเทศลาวก็มีเยอะ ทางเชียงใหม่เรียก หมากเปิ่น หรือ หม่าปิน คนภาคกลางเรียกอีกชื่อว่า ละมุดเขมร แถวภาคเหนือขายกันกิโลกรัมละประมาณ 80 – 120 บาท ทางอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ก็ปลูกกันเยอะ และคนจีนนิยมเอามาไหว้เจ้า แทนลูกท้อเมืองจีนที่มีราคาแพงกว่า
เมื่อพูดถึง เซียนท้อ หรือ ม่อนไข่ คนจำนวนไม่น้อยอาจพอจะรู้จักดีหรือได้อ่านเรื่องเล่าเซียนท้อแต่ก่อนก็น่าจะพอเคยชินเซียนท้อบ้างแล้ว โดยผลของเซียนท้อหรือม่อนไข่ ผลมีใบหน้าเป็นกลมภาพรี ปลายผลมีหลากหลายแหลมหรือจะงอย ผลเมื่อสุกจะเป็นสีเหลืองอ่อน เปลือกผลบาง เนื้อในผลเป็นสีเหลืองสดน่ารับประทาน เนื้อมีเค้าหน้าเหนียวราวกับแป้งทำขนม เนื้อนิ่มคล้ายกับไข่แดงด้านในผลมีเมล็ดขนาดใหญ่ และมีหน้าตาเป็นรูปรีสีดำ รสหวาน นิยมนำรับประทานเป็นผลไม้หรือในเมืองนอกเองก็นิยมนำมาทำเป็นขนมหรือแยมได้ ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของม่อนไข่หรือเซียนท้อ แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะรู้ถึงประโยชน์และ สรรพคุณของเซียนท้อ หรือ คุณประโยชน์ของม่อนไข่ วันนี้เราจะพาท่านนักอ่านมาเคยชินถึงคุณประโยชน์และสรรพคุณทางยาของเซียนท้อและรับรองได้ทันทีว่าคุณจะหลงรักผลไม้ชนิดนี้แน่นอน
สรรพคุณของเซียนท้อ– เนื้อม่อนไข่อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง เรียบเนียนและชมแจ่มแจ้งใสขึ้นอีกต่างหาก
- นอกจากนี้เนื้อของม่อนไข่ยังมีไนอะซินและเบต้าแคโรทีนสูงมาก เป็นประโยชน์สำหรับในการช่วยชะลอริ้วรอยช่วงวัยและชะลอความแก่ได้อีกต่างหาก
- เนื้อม่อนไข่สามารถบำรุงประสาทและบำรุงความคิดในหัวของพวกเราได้อีกด้วย
- เนื้อม่อนไข่สามารถบำรุงสายตา
- เปลือกของลำต้นม่อนไข่หรือเซียนท้อสามารถรักษาผดผื่นคันตามลำตัวได้
- เปลือกของต้นม่อนไข่นั้นใช้เป็นยารักษาอาการเป็นไข้ ตัวร้อนได้
- ผลสุกใช้รับประทานแล้วามารถช่วยรักษาในเรื่องของโรคเลือดออกตามไรฟัน
- เมล็ดของเซียนท้อสามารถใช้เป็นยาสำหรับช่วยรักษาแผลเน่าเปื่อยและแผลพุพองได้
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากม่อนไข่
ผลม่อนไข่นิยมใช้รับประทานได้ผลไม้สด มีความเห็นว่าอร่อยนัก ชาวฟลอริดานิยมนำม่อนไข่หรือเซียนท้อมารับประทานเข้าร่วมกับเกลือ พริกไทย มายองเนส หรือน้ำมะนาว
นอกจากนี้ผลจะใช้รับประทานสดได้แล้วนั้น ผลสดเองยังสามารถนำมาใช้ทำเป็นขนมได้อีก ยกตัวอย่างเช่น แพนเค้ก แยม คัสตาร์ด ทาร์ต ใช้อบให้สุก หรือเอามาใช้ผสมกับนมหรือโยเกิร์ตก็ได้เหมือนกันด้วยเช่นกัน
เนื้อไม้ของต้นม่อนไข่นั้นมีความขนาดที่เล็กมากและแข็งแรง สามารถนำไม้ของต้นม่อนไข่มาใช้ทำเป็นไม้บอร์ดหรือใช้ในงานก่อสร้างต่าง ๆ ได้
คุณประโยชน์ทางโภชนาการของม่อนไข่ ต่อ 100 กรัม (จำเพาะในส่วนที่กินได้)
- พลังงาน 138.8 กิโลแคลอรี
- โปรตีน 1.68 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 36.69 กรัม
- ไขมัน 0.13 กรัม
- เส้นใย 0.10 กรัม
- น้ำ 60.6 กรัม
- เหาก 0.90 กรัม
- แคโรทีน (โปรวิตามินเอ) 0.32 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 1 0.17 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 0.0.1 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 3.72 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 58.1 มิลลิกรัม
- ธาตุแคลเซียม 26.5 มิลลิกรัม
- ธาตุฟอสฟอรัส 37.3 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.92 มิลลิกรัม
- ทริปโตเฟน 28 มิลลิกรัม
- เมไธโอนีน 13 มิลลิกรัม
- ไลซีน 84 มิลลิกรัม
เซียนท้อ เนื้อนุ่ม ผิวเนียน แม้แต่เซียน…ก็จำเป็นจะต้องง้อ
ชื่ออื่นๆ ม่อนไข่ ละมุดเขมร ละมุดอินเดีย โตมา หมากป่วน เลกีมา (ลูกท้อเวียดนาม) ท้อเขมร (ปราจีน) ทิสซ่า (เพชรบูรณ์)
หนูมิได้กำเนิดเมืองไทยนะคะ เคยสืบสาวปู่ย่าตายายพบว่าถิ่นกำเนิดอยู่ที่เม็กซิโกขณะใต้ อเมริกาใต้ กระจายอยู่ตั้งแต่กัวเตมาลา คอสตาริกา ปานามา แม้จนกระทั่งนิการากัว แต่แปลกหรือไม่คะ คนไหนได้ยินชื่อเรื่องหนูแล้วจะถามว่าหนูมาจากประเทศจีน หรือสิบสองปันนาณ เวลาเหนือประเทศไทย ก็แหม พอเอ่ยชื่อเรื่อง “เซียน” ก็คำนึงถึง โป๊ยเซียน แปดเซียน พอเอ่ยคำว่า “ท้อ” ก็ไปคือว่าลูกท้อ ที่เป็นถ้อยคำจีนแต้จิ๋ว และเกษตรกรภาคเหนือของไทยก็มีปลูกต้นท้อ ยังนำผลเล็กๆ บรรจุขวดดองขายนักท่องเที่ยวเลย ก็เลยทำให้สับสนสำหรับเพื่อการเรียกชื่อเรื่อง
สรุปว่า ถ้าเอ๋ยถึงลูกท้อ นั้น ศัพท์แสงอังกฤษเรียก Peach เมื่อออกดอก ก็จะทิ้งใบหมด เรียกว่า Peach Blossoms ดอกมีทั้งสีขาว สีแดง หรือสีดูพู คนไหนปรากฏก็ไปเทียบแก้มสาวงามว่า แก้มนวลเนียนเหมือนดอกท้อ หนูอุตสาหะทำความเข้าใจว่า ต้นท้อ ลูกท้อ ดอกท้อ นั้น ไม่น่าใช่หนู แต่ชื่อ “เซียนท้อ” ของหนูก็ยังมีคนข้องใจเรื่องเพราะเหตุไรจะต้องเป็น “เซียน” หนูจึงจำเป็นต้องหาข้อมูลตอบคนถามไถ่คำว่า เซียน อีก เนื่องจากว่ามีคนกล่าวว่า “เซียน” นี่หมายถึงว่าสุดๆ เลย เคยได้ยินมาว่า เซียนเหยียบเมฆ โค้งปราบเซียน โจรระดับเซียน เซียนผู้หญิง เซียนหุ้น คำนิยามของเซียนเป็นเรื่องลำดับขั้นเทพ เซียน มีความหมายว่า ผู้วิเศษ ผู้เป็นผล ถ้าจะขยายความก็คือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ เก่งกาจด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ อาทิเช่น เซียนพระ แต่หนูคุ้นกับคำว่า โป๊ยเซียน หรือ แปดเซียน ถือได้ว่าเป็นเทพเจ้าจีน หมายถึง นักสิทธิ์ในลัทธิเต๋า เป็นผู้บรรลุถึงอมตะภาพแห่งร่างกายและวิญญาณ ในเรื่องปรัมปราจีน มีชื่อเสียงมายาวนานตั้งแต่ราชวงศ์ถัง แต่ช่วงเวลาที่เกี่ยวโยงกับชื่อเรื่องของหนูมีพวกชอบดราม่ากันอีกว่าเพราะเหตุไรเซียนถึงท้อ จะให้แจกแจงคำว่า “ท้อ” อีกก็เรื่องมากจนเกินไปแล้ว แม้ว่าจะท้อแท้แต่ก็ไม่ถอย มาพูดกันดิ่งๆ เรื่องหนูดีกว่า
ว่ากันว่า หนูได้ผลไม้ชื่อแปลกที่เข้ามาเมืองไทยเชิงเกษตรไม่เกิน 20 ปี ก็เลยยังไม่เป็นที่รู้จักเกี่ยวกับการเลี้ยงและดูแลพึชให้เติบโตงอกงามแพร่หลากหลายนัก ผลผลิตส่วนใหญ่จำนวนเยอะที่สุดก็จากทางภาคเหนือ แต่เดี๋ยวนี้ก็มีจากภาคอีสานบ้างแล้ว ส่วนใหญ่วางขายตามสถานที่ไปเที่ยว นิยมเรียกกันว่า ม่อนไข่ ซึ่งแสดงว่า ไข่แดง จากผลไม้ที่ไม่ค่อยมีคนใดรู้จักนัก หนูก็เลยมีคนนำไปตั้งเป็นคำถามในสื่อทีวีสื่อออนไลน์บ่อยครั้งๆ หนูเคยออกรายการช่อง 8 กลับกลายเป็นตัวปริศนาในรายการ Infinity เกมไม่มีที่สิ้นสุด เป็นการตอบปัญหาสุดอึ้ง ตอบถูกได้ร่ำรวย คุณหนุ่มกรรชัย เป็นผู้ดำเนินรายการนำเซียนท้อมาวาง แล้วให้เฟ้นว่าชื่อเรื่องอะไร มีลูกชิด ลูกจันทร์ ลูกท้อ มะกอกน้ำ ผู้ตอบตอบว่าเป็นลูกจันทร์ รายการเฉลยว่าผิด ที่แม่นยำตอบว่า ลูกท้อ หนูเองยิ่งงง งงไปใหญ่ จึงมีคนคอมเม้นต์คำตอบว่าเฉลยก็ไม่ถูกด้วยเช่นกัน ที่แม่นยำผลสรุปว่า ลูกเซียนท้อ มีคนแสดงข้อคิดเห็นเยอะเลยว่า เรียกลูกท้อก็ไม่ถูก ไม่น่าใช่ลูกท้อจีน เห็นบ้างมั๊ยคะแม้ว่าจะมีคนเริ่มต้นเคยชิน แต่ก็ยังเรียกชื่อเรื่องปนกันสับสนไปหมด